---------------------------------------------
กำเนิดตำนาน ไก่ย่างจีระพันธ์ ย้อนอดีต เมื่อปี พ.ศ. 2485
โดยคุณประจวบและคุณสง่า อักษรพันธ์ ซึ่งเป็นช่างพระนครศรีอยุธยาเป็นผู้บุกเบิกก่อตั้งไก่ย่างจีระพันธ์
จุดกำเนิดไก่ย่างที่โด่งดังของ พระนครศรีอยุธยา: จากการขายไก่ย่างเป็นลักษณะเสียบด้วยไม้บนเตาเล็กๆ ซึ่งขายดีเป็นอย่างมาก ด้วยสูตรพิเศษเฉพาะไม่เหมือนใคร โดยในขณะนั้นไม่มีการตั้งชื่อร้านแต่อย่างใด แต่ด้วยมีลูกสาว 2 คน และลูกสาว 1 คนได้เสียชีวิต ด้วยความรักและห่วงลูกสาวที่ยังอยู่จึงนำชื่อลูกสาวคนนี้มาเป็นชื่อร้าน “ไก่ย่าง จิระพันธ์” เป็นเพราะคุณประจวบและคุณสง่ามีแต่ลูกสาวและมีความตั้งใจที่จะให้ลูกเรียนสูงๆ ดังนั้นจึงได้ให้หลานชาย คือ “คุณอับดุลเลาะห์ อาดำ” ที่คอยช่วยส่งไก่ให้น้าสาวมาด้วยตลอดมาช่วยงาน ในช่วงระยะเวลา 10 ปี จึงได้ซึมซับกระบวนการทำไก่ย่างมาโดยตลอด
คุณอับดุลเลาะห์จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนอิสลามวิทยาลัยและสอบติดในโรงเรียนนายเรืออากาศ แต่ด้วยสภาวการณ์ในขณะนั้นไม่สามารถศึกษาต่อได้ จนกระทั่งน้าสาวมีอายุมาก อีกทั้งลูกสาวได้ทำงานราชการสามารถ เลี้ยงดูบิดา – มารดาได้ จึงไม่อยากให้บิดา – มารดาหยุดขายไก่ย่าง ประกอบกับลูกสาวไม่ขอสืบต่อกิจการ สองสามีภรรยามีความกังวลใจว่าสูตรไก่ย่างจะไม่มีใครสืบทอด ดังนั้นจึงประสงค์ให้คุณอับดุลเลาะห์ ได้รักษาไว้ซึ่งสูตรไก่ย่างต่อไป
ช่วงประมาณปี พ.ศ. 2500 คุณอับดุลเลาะห์ได้เข้ามาในกรุงเทพฯ และได้ดำเนินกิจการไก่ย่างด้วยชื่อ “ไก่ย่าง จีระพันธ์” พร้อมด้วยบรรดาพี่น้อง โดยเริ่มต้นจากการนำไก่ย่างเร่ขายบนรถซูบูรุ บริเวณแถวถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ย่านซอยกิ่งเพชร จึงทำให้คนในย่านนั้นรู้จัก “ไก่ย่าง จีระพันธ์” มากขึ้น ด้วยรสชาติของไก่และน้ำจิ้มที่ไม่เหมือนใคร
ในยุคสมัยนั้นมีงานประจำปีมากมาย พี่น้องตระกูลไก่ย่างจีระพันธ์ก็ได้ยึดงานประจำปีของประเทศในการออกร้านขาย ในหนึ่งงานมีร้านไก่ย่างมากกว่า 5 ร้านเรียงรายกัน อาทิเช่นงานสนามมวย งานประกวดนางสาวนางสาวไทย งานภูเขาทอง งานกาชาด งานประจำปีสนามหลวง
สมัยยุคแสดงตลกรุ่งเรืองไม่ว่าจะเป็น เทพโพธ์งาม เด๋อดอกสะเดา จุ๋มจิ๋มเข็มเล็ก ฯลฯ ทางร้านได้เชื้อเชิญให้ขึ้นเวทีเพื่อให้ลูกค้าเข้ามานั่งทานอาหารในร้าน งานประจำปีเริ่มลดน้อยลงด้วยสภาพการเมืองหลังยุค “14 ตุลาคม 2516 “ ทำให้คุณอับดุลเลาะห์และคุณซอลีฮะห์ (พี่สาว) ที่ยังยึดอาชีพการขายไก่ ได้มีการปรับตัวโดยเปิดร้านประจำบริเวณสะพานพุทธ และขายที่สนามมวยราชดำเนิน ร่วม 10 ปี ก็ได้ย้ายมาเปิดร้านที่ย่านพระโขนง บริเวณโรงหนังพระโขนงราม่า
ณ พระโขนง ได้มีการขยายกิจการเป็นร้านมุสลิมต้นแบบในการเพิ่มเมนูอาหารมุสลิมที่หลากหลาย เป็นต้นตำรับที่ทำให้คนทั้งประเทศได้รู้จักและลิ้มรสชาติอาหารมุสลิม เช่น ข้าวหมกไก่ ซุปหางวัว ซุปเนื้อ เนื้อสเต๊ะ ยำสลัด และยังคงออกร้านในงานประจำปี โดยยังคงรักษาอัตลักษณ์ด้วยการมีร้านไก่ย่างจีระพันธ์ไม่ต่ำกว่า 3 – 4 ร้าน ขายไก่ย่างแบบ 24 ชั่วโมง
ต่อจากนั้นร้านไก่ย่าง จีระพันธ์ได้ย้ายมาเปิดร้าน ณ ถนนพัฒนาการ เรียกได้ว่าเป็นร้านมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในยุคนั้น แต่ด้วยปัญหาด้านการตัดทางด่วนทำให้ร้านประจำของไก่ย่างจีระพันธ์ต้องปรับตัวอีกครั้ง
ในขณะนั้น คุณอามีนะห์ อาดำ(ภรรยา) ได้เป็นผู้สานงานต่อในการดำเนินกิจการไก่ย่าง โดยคุณอับดุลเลาะห์และหลายชายได้เดินทางไปยังต่างประเทศ เพื่อเปิดกิจการร้านอาหาร ตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ประสบกับปัญหามากมาย ต้องเดินทางกลับมา
ซึ่งหลังจากกลับประเทศไทย คุณอับดุลเลาะห์ ได้เริ่มต้นธุรกิจใหม่ นั้นคือธุรกิจต้นไม้ แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่คาดหวัง จึงมีแนวคิดริเริ่มในการผลักดัน ไก่ย่าง จีระพันธ์ ให้เติบโตมากยิ่งขึ้น โดยการออกร้านในงานสำคัญและงานประจำปีต่างๆ เช่น งานกาชาด งานเกษตรแห่งชาติ งานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย (สวนอัมพร) จึงทำให้ไก่ย่างจีระพันธ์กลับมาเป็นที่ร่ำลืออีกครั้ง
พ.ศ. 2535 คุณอับดุลเลาะห์และครอบครัวได้ลงทุนบนที่ดิน ริมถนนพระราม 9 บนเนื้อที่ประมาณ 250 ตารางวา เปิดร้านอาหาร “ไก่ย่าง จีระพันธ์” ขึ้นอีกครั้ง โดยมี ไก่ย่าง เป็นพระเอก ข้าวหมกไก่ เป็นนางเอกประจำร้าน และเพิ่มเติมเมนูต่างๆมากมาย ดังเช่น ซุปเนื้อ ซุปหางวัว ซุปไก่ เนื้อสะเต๊ะ ไก่สะเต๊ะ โรตี มะตะบะ อาหารอีสาน เป็ดย่าง และ ข้าวขาวัว
โดยเฉพาะเมนูเด่นข้าวขาวัวนี้เป็นเมนูที่สร้างความฮือฮาและสร้างโอกาสให้คนทั่วประเทศได้รู้จักไก่ย่างจีระพันธ์อีกครั้ง ทำให้นักชิมระดับเทพของเมืองไทย คือ คุณสันติ สันติเวชกุล ต้องตามมาเปิบพิสดารในเมนูนี้ โดยมอบใบการันตีความอร่อยให้กับทางร้านในช่วงปี พ.ศ. 2539 และ เชลชวนชิม มอบใบการันตีความอร่อย “จีระพันธ์เป็น ไก่ย่างมุสลิม ร้านแรกของประเทศไทย” กล่าวโดย หม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์
ทำให้ไก่ย่างจีระพันธ์ขายดิบขายดีมีลูกค้าทั่วทุกมุมของจังหวัดกรุงเทพฯ มาทานกันมากมาย ในยุคนั้นเป็นยุคของ “การเล่นเก้าอี้ดนตรี” ของลูกค้าในร้าน ลูกค้าต้องยืนรอโต๊ะเพื่อจะนั่งทาน ยอดขายในยุคนั้น ขายไก่ย่างได้วันละหลายร้อยตัว ข้าวหมกไก่วันละหลายถังต่อวัน กิจการไก่ย่างจีระพันธ์ดำเนินไปอย่างประสพความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทำให้มีร้านค้ามุสลิมที่ทำอาหารคล้ายๆกันเกิดขึ้นในยุคนั้นมากมาย
คุณอับดุลเลาะห์ได้พัฒนาเทคนิคใหม่ “อบไก่” ก่อนนำไปย่าง เพื่อให้ทันต่อความต้องการของลูกค้าที่นับวันจะมีมากขึ้น ในช่วงปี พ.ศ. 2543 คุณอับดุลเลาะห์ได้รับเกียรติให้ไปปรากฏตัวเชื้อเชิญร่วมรายการ เกมส์แก้จน “ใครเป็นเจ้าของร้านไก่ย่าง จีระพันธ์ตัวจริง” ทำให้ยอดขายสูงสุดถึงวันละ 1,000 ตัว
คุณอับดุลเลาะห์ได้เสียชีวิต เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2544 โดยมีภรรยาและลูกๆได้รับช่วงกิจการ ปี 2546 ได้เปิดสาขา 2 ที่หมู่บ้านสัมมากร ถนนสุขาภิบาล 3 และต้องปิดสาขาลงเนื่องด้วยประสบปัญหาเรื่องที่จอดรถ ดังนั้นจึงมุ่งพัฒนาสาขาพระรามเก้าต่อไปจนถึงปัจจุบัน
และปัจจุบัน ต้นตำหรับความเป็นตำนาน แห่งไก่ย่างจีระพันธ์ ตั้งอยู่ที่ ถ พระรามเก้า ตัดใหม่ (ข้างตึกไฟนาว) ก่อนถึง เดะไนท์ พระรามเก้า
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.jeerapan.com โทร 081-755-1806
-------------------------------------------
ไก่ย่างจีระพันธ์ “ไก่ย่างจีระพันธ์” ร้านอาหารมุสลิม ชื่อดังบนถนนพระราม 9 ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาเนิ่นนาน จากการจำหน่ายไก่ย่างตามงานเทศกาลต่างๆ มากว่า 70 ปี
โดยก่อนหน้านั้น คุณอับดุลเลาะห์ อาดำ (คุณพ่อ) ผู้ริเริ่มกิจการ เมื่อปี 2535 ในการใช้พื้นที่ริมถนน จำนวน 200 ตารางวา ในการดำเนินธุรกิจร้านอาหารมุสลิม ที่เป็นร้านอาหารที่รองรับรับลูกค้าทุกศาสนิก จากการพัฒนาสูตรอาหารอย่างต่อเนื่องของ คุณอับดุลเลาะห์ อาดำ ทางร้านมีเมนูอาหารเด่นหลายเมนูที่ลูกค้าให้ความนิยมทาน
โดยมีเมนู คู่ดัง ประจำร้านที่เรียกได้ว่า ไปออกงานที่ไหนก็แล้วแต่จะต้องเคียงคู่กันไปตลอด คือ
- ไก่ยาง ที่มีสูตรเด็ดไม่เหมือนใคร
- ข้าวหมกไก่ ที่มีความความหอม ไปด้วยเครื่องเทศ
การันตีคุณภาพจากการคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นคู่พระนางประจำร้านก็ว่าได้ ร้าน ไก่ยางจีระพันธ์มีอาหารมากมายไว้บริการลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น อาหารมุสลิม อาหารไทย อาหารอีสาน
รวมไปถึงการให้บริการอาหารนอกสถานที่ของทางร้าน รับจัดเลี้ยงบุฟเฟต์ รับทำอาหารกล่อง รับจัดอาหารออกร้านตามงานเลี้ยงในเทศกาลต่างๆ อีกทั้งปัจจุบันทางร้านยังมีการบริการจัดส่งอาหาร เดลิเวอรี่ เรียกได้ว่าคิดอยากทานอาหารของร้าน จีระพันธ์ เมื่อใดต้องได้ทาน ร้านไก่ยาง จีระพันธ์ สามารถรองรรับลูกค้า ได้ถึง 160 คน
ไก่ย่าง จีระพันธ์ เป็นร้านอาหารที่เหมาะกับลูกค้าทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นมากันเป็น ครอบครัว การนัดหมายเพื่อนฝูงพบปะกัน ร้านไก่ยาง จีระพันธ์ ยังสามารถรองรับ คณะทัวร์จากต่างจังหวัด และต่างประเทศ อีกด้วย
ร้านไก่ยาง จีระพันธ์ เปิดให้บริการ ตั้งแต่ 08.30 – 22.000 น.
เปิดตำนาน ร้าน ไก่ย่างจีระพันธ์ จนถึง ปัจจุบัน
“ไก่ย่างจีระพันธ์” ร้านอาหารมุสลิม ชื่อดังบนถนนพระราม 9 ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาเนิ่นนาน จากการจำหน่ายไก่ย่างตามงานเทศกาลต่างๆ มากว่า 70 ปี โดยก่อนหน้านั้น คุณอับดุลเลาะห์ อาดำ ผู้ริเริ่มกิจการ จะนำไก่ย่างใส่รถซูบารุตระเวนขายไปตามงานเทศกาลหรืองานประจำปี เช่น งานกาชาด งานพระปฐมเจดีย์และงานประกวดนางสาวไทยยุคแรกๆ ที่ยังมีการออกร้านค้าร้านอาหารได้
คุณอับดุลเลาะห์มีพี่น้องทั้งหมด 9 คน โดยพี่น้องทั้ง 9 คนนี้ ล้วนแล้วแต่ใช้ชีวิตคุลกคลีการขายไก่ย่างกันโดยตลอด แต่ด้วยเมื่อเติบโตมีครอบครัวกันพี่น้องทั้ง 9 คนต่างก็ค้นหาอาชีพให้กับตัวเองตามที่ถนัดกันไป จึงมีเพียง 2 พี่น้อง คือ คุณซอลีฮะห์ นันทัศศิลป์ (พี่สาว)ที่จะพบเห็นในงานต่างๆ ในแบรนด์ จีรพันธ์ สาลี่ และ คุณอับดุลเลาะห์ อาดำ ในแบรนด์ ไก่ยางจีระพันธ์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในปัจจุบัน ที่เลือกที่จะดำเนินกิจการการทำร้านอาหารต่อ
ด้วย คุณอับดุลเลาะห์ ต้องช่วยคุณป้าย่างไก่-ส่งไก่ มาตั้งแต่เด็ก ก่อนที่จะออกมาดำเนินงานด้วยตัวเองในชื่อกิจการว่า “ไก่ย่างจีระพันธ์” อันเป็นชื่อที่ดัดแปลงมาจาก “ไก่ย่างจิระพันธ์” อ่านว่า จิ - ระ - พัน ซึ่งเป็นชื่อร้านของคุณป้าที่ได้เลิกกิจการไปแล้วนานนับ50ปี
โดยคุณอับดุลเลาะห์ ย่างไก่ใส่รถซูบารุออกเดินสายจำหน่ายจนชื่อ “ไก่ย่างจีระพันธ์”เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น ต่อมาจึงได้เปิดเป็นร้านอาหารขึ้นบริเวณสะพานพุทธ แต่ประสบปัญหาเกี่ยวกับสถานที่ จึงต้องย้ายออกมาและได้เริ่มต้นใหม่ที่ถนนพัฒนาการ แต่ก็ต้องประสบปัญหาการเวนคืนที่ดินอีกละรอก เนื่องจากบริเวณนั้นมีโครงการที่จะสร้างทางด่วน จนในที่สุด “ไก่ย่างจีระพันธ์” จึงต้องปิดกิจการไป
ด้วยความพยายามของ คุณอับดุลเลาะห์ ซึ่งมีความฝันที่จะสร้าง แบรนด์ ไก่ย่างจีระพันธ์ซึ่งเป็น แบรนด์มุสลิมไทย ใน ยุคนั้นให้เป็นที่รู้จักกับคนทั่วไป จึงได้ออกงานต่างๆ เพื่อตอกย้ำให้ลูกค้าได้รู้จักและรับรู้ว่า ไก่ย่างจีระพันธ์ ยังคงดำเนินการต่อไป ถึงแม้จะไม่มีร้านประจำ ด้วยดุอาฮ์ และความพยายามที่ไม่หยุดนิ่งของ คุณอับดุลเลาะห์ จึงเห็นว่าถนนเส้นพระรามเก้าตัดใหม่ เป็นถนนเล้นหลักที่อาจเป็นถนนเส้นธุรกิจในอนาคต จึงได้เจรจาขอเช่าพื้นที่บนพื้นที่ประมาณ 200 ตารางวา ในการเปิดร้าน ไก่ย่างจีระพันธ์ ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2535
ครั้งนี้กิจการ “ไก่ย่างจีระพันธ์”สามารถดำเนินไปได้ด้วยดี โดยตลอดสิบกว่าปี ด้วยการคิดค้นพัฒนาสูตรอาหารอย่างไม่หยุดนิ่งมาโดยตลอดของ คุณอับดุลเลาะห์ ในความมุ่งมั่นที่จะรองรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ได้ทุกศาสนิก จึงได้คิดค้น “ข้าวขาวัว” เพื่อให้ พี่น้องมุสลิม ได้ลิ้มรสชาติของ “ข้าวขาวัว” ที่มีการจัดวางต่างๆ เลียนแบบ ข้าวขาหมู จนบางครั้งทำให้มุสลิมหลายคนเมื่อเข้ามาในร้านต้องตกใจและถามก่อนว่าเป็น ร้านมุสลิมแน่หรือ
เนื่องจากคิดว่า เป็นข้าวขาหมู ที่ขายอยู่ในร้าน เมื่อรู้ว่าเป็น “ข้าวขาวัว” จึงทำให้ใครต่อใครหลายคนได้ลิ้มลองและเป็นที่ติดใจของ นักชิมกันในยุคนั้นเป็นอย่างมาก และเมื่อปี พ.ศ.2539 เมนู “ข้าวขาวัว” ก็ได้เป็นเมนู เปิปพิสดาร ของแม่ช้อยนางรำ ในการได้รับเชิญมาจากรายการ ท้าพิสูจน์ ของบริษัท กันตนา ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 ให้ออกรายการจึงทำให้ ร้าน ไก่ย่างจีระพันธ์ เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นในกลุ่มคนยุคใหม่ แต่ในการยอมรับของกลุ่มลูกค้าในเรื่อง ของไก่ย่าง ที่มีสูตรไม่เหมือนเจ้าไหน ในประเทศ ได้รับการยอมรับโดยมียอดขายเฉลียต่อวันอยู่ที่ ประมาณ 100 ตัว ด้วยการย่างไก่สด วันละ 100 ตัว ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มีทั้งควันมากมายรบกวนลูกค้าในร้าน
จึงทำให้ คุณอับดุลเลาะห์ คิดค้นพัฒนาการย่างไก่ ให้มีวิธีการที่มีควันน้อยที่สุด และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด จึง ได้มีกรรมวิธีการย่างไก่ที่นำไปอบก่อนที่จะนำมาย่างในเตาถ่านอีกครั้ง ต่อมาได้รับการเชื้อเชิญให้ไปปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์ “เกมแก้จน” และรายการอื่นๆ อีกมากมายทำให้ “ไก่ย่างจีระพันธ์” เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น โดยในช่วงปี 2543 มียอดจำหน่ายสูงถึงวันละ 1,000 ตัว จากกรรมวิธีที่ คุณอับดุลเลาะห์ ได้คิตค้นสูตรการย่างใหม่ จึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะรองรับปริมาณการขายไก่ย่างวันละ 1,000 ตัว อีกทั้ง คุณอับดุลเลาะห์ ยังคิดค้นอาหารอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น วัวหัน ซึ่งจะพบเห็นขายในงาน อีเว้นท์ต่างๆ ของมุสลิม ไม่ว่าจะเป็นงานเมาลิตกลาง ฯลฯ
คุณอับดุลเลาะห์ได้เสียชีวิตเมื่อ วันที่ 13 สิงหาคม 2544 ปัจจุบันจึงมีลูกๆ 3 คนของคุณอับดุลเลาะห์ เข้ามารับช่วงกิจการแทน และด้วยความที่ ทายาทของคุณอับดุลเลาะห์เห็นว่า แบรนด์ ไก่ย่างจีระพันธ์ ซึ่งเป็นแบรนด์ ที่คุณอับดุลเลาะห์ ผู้เป็นบิดา คิดค้นและพัฒนาให้เป็นที่รู้จัก จึงได้จดทะเบียนลิขสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ ในนาม “ไก่ย่างจีระพันธ์” จนถึงปัจจุบัน